พิมพ์

[a-zuma]

ตอนนี้
น้ำมันเกัยร ดูตอนร้อน ตรงขีด Hot ยังไม่ติดเครื่อง เกินขีด Hot ขีดบนสุด 1 เซ็นติเมตร
น้ำมันเกัยร ดูตอนร้อน ตรงขีด Hot ยังติดเครื่องยนต์ กึ่งกลางขีด Hot
เติมไปประมาณ 5.5 ลิตร แต่ไม่เห็นล้นเกียรออกมาครับ อย่างนี้มีผลทำให้วิ่งแรงปลายไม่ไปไหมครับ


วงจรคันเกียร โตโยต้า เหมือนกันไหมครับ ของผมที่ได้มาของ เจ ครับ

-ไฟ12V ON  คือ เปิดสวิท กุณแจ แล้วไฟเข้า
-ไฟ 12Vเบรค (STOP)  คือ เปิดเบรค แล้วไฟเข้า
-ไฟ12V(ACC) คือ   อะไรครับ
-ไฟOUTไปล๊อกกุญแจคอ รถ km 36 มีไหมครับ
-ลงดิน กราว


 

Coolเช็คตอนเพิ่งติดเครื่อง
Hotเช็คตอนเครื่องร้อนหรือวิ่งมาแล้ว

[podd]

วงจรคันเกียร์เหมือนกันครับ เพียงแต่ต้องไล่สีสายไล่ขั้วให้ดี
เจ้ารถตู้ของผมเองก็กล่องคุมเกียร์เสียครับ ปลดPไม่ได้กลางสี่แยกเลย
ตอนนี้ก็ใช้กล่องคุมคันเกียร์ของ J มาไล่สายใส่แทน

12v ACCคือไฟตำแหน่งบิดกุญแจก่อนสตาร์ทครับ หรือตำแหน่งอุปกรณ์ คือตำแหน่งแรกที่วิทยุติด
แต่ในการต่อใช้งานจริงแล้ว จะนำ12V ทั้งสองเส้นมาต่อรวมกันในตำแหน่งONครับ

ที่มี2แหล่งนั้นเป็นผลในเรื่องการล๊อกfดอกกุญแจและระบบป้องกันภายในกล่องเกียร์

ระบบล๊อกดอกกุญแจรถรุ่นนี้ยังไม่มีครับ

ส่วนเรื่องน้ำมันเกียร์นั้นขณะดับเครื่องจะวัดได้มากกว่าตอนติดเครื่อง เพราะยังไม่ได้ดันเข้าในระบบออยล์คูลเลอร์ และลูกทอร์คยังไม่ได้วิดน้ำมันเข้าในตัว ส่วนจำนวนที่แจ้งไปคือที่วัดได้ตอนถ่ายก่อนขนส่ง ยังไม่รวมกับที่ต้องหกออกไปตอนที่ทางเซียงกงตัดเครื่องออกมาและขนย้ายจากญี่ปุ่นมาอีกไกล

[podd]

ตอนนี้ต่อ สายสลิงแบบตึงให้เรียกกำลังแล้วถอนคันแรงหน่อยเปลี่ยนเกียรเพื่อลอยลำ พอถึงเกียรโอเวอร์ได้ กดคันเร่งจนหมดแล้วไม่ไปความเร็วคงที่เร่งไม่ไปแล้ว  ขนาดยาง 175/65R15 อัตราทดเฟืองท้ายไม่ทราบเท่าไหร่ครับ ดูไม่เป็นครับ

Coolเช็คตอนเพิ่งติดเครื่อง
Hotเช็คตอนเครื่องร้อนหรือวิ่งมาแล้ว

ส่วนจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ให้เร็ว ให้ช้า อยู่ที่ระยะสายสลิง ด้วยจังหวะตรงนี้จะลาก้กียร์ยาวเรียกกำลัง หรือเปลี่ยนเร็วเพื่อลอยลำ

แต่อีกส่วนที่มองข้ามไม่ได้ก็อัตราทดเฟืองท้าย กับเส้นรอบวงล้อ หรือขนาดยางด้วย

ขนาดยางถือว่าใกล้เคียงกันตามในรูปแรกเป็นสเปคยางที่ใช้

ส่วนระยะสลิงตามมาตรฐานก็ตามในรูป หากปรับให้หย่อนจะเปลี่ยนเกียร์เร็ว ถ้าตั้งตึงเปลี่ยนเกียร์ช้า คงต้องตั้งตามความต้องการของแต่ละคนในจุดนี้ (ฝากรูปท่อน้ำมันเกียร์เดิมๆให้ด้วย)

ส่วนเฟืองท้ายเอาจำนวนเฟืองหารกันครับ งานนี้ต้องรื้อมานับครับ หากตามสเปคจะอยู่ที่4.5สำหรับเครื่อง 5Kเกียร์ธรรมดา
แต่ตามสเปคตัวนอดเฉพาะญี่ปุ่นอันเป็นแหล่งผลิต5Kเกียร์ออโต ใช้ดังนี้
1997 TOYOTA LITEACE (KR41V-SRSDS)
NOAH D JPN VAN SRF 5K CBR ATM CBU V1 5D 06S
FINAL GEAR RATIO=43:9=4.778

ซึ่งหากจะเปลี่ยนเฟืองท้ายอาจต้องตัดสินใจในการเปรียบเทียบ ปรับเปลี่ยนดูกันตามความเหมาะสม ทั้งด้านอะไหล่ วิธีการ และงบประมาณ
หากใช้อัตราทดสูงต้นจะดี ปลายหมดไว ได้กำลัง
หากใช้อัตราทดต่ำๆ ต้นไม่มีกำลัง ปลายไหลดี ได้ความเร็ว

[podd]

ตอนนี้ เริ่มลองขับใกล้ๆ รู้สึกว่าไมล์จะอ่อนไป ครับ น่าจะเฟือง ไมล์ใหญ่ หรือ เล็กไป ไม่รู้เหมือนกานครับ 555

การต่อไฟเกียร P R N D 2 L  เข้าใจแล้วครับ ต่อได้ละครับ  ส่วนไฟสตาร์ท ยังไม่ได้ต่อ แต่ดูวงจรน่าจะต่อได้ครับ

ตามไปดูสเปคแล้วสายไมล์ใช้เฟืองขับ อัตรา 16:4

[a-zuma]

มีคำถามครับ รถมันร้อนกว่าปกติครับ ทั้งๆที่อากาศไม่ร้อนแต่ความร้อนขึ้นไวและสูงกว่าตอนใส่เกียรคอ ทั้งตอนวิ่ง และตอนจอดเครื่องร้อนเร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งแอร์ทำงานเครื่องรอบตกเยอะกว่าเดิมอีกด้วย เป็นสาเหตุมาจาก ทอร์อที่หนักติดเครื่อง หรือเปล่าครับ ไม่ได้ลองเอามาชั่งก่อนระหว่าง ชุดครัส เฟืองวี ว่าอย่างไหนหนักกว่ากันครับ
 ขนาดยางผมกะว่าจะหา 185/50R15 หรือ 195/50R15 มาลองดูครับ ไม่ทราบใกล้เคียงสเปกเดิมไหมครับ เขาคำนวณกันยังงัยครับ
ลองเปลี่ยนยางแทนเฟืองท้ายไปก่อน
ส่วนระยะสลิง ผมชอบตึงเปลี่ยนเกียร์ช้า เพราะลองตั้งให้หย่อนเปลี่ยนเกียรเร็วเกินไปครับ รถไม่มีแรงส่งไปต่อ
เฟืองท้ายถ้าว่างจะถอดออกมานับครับ ตอนนี้มีน้ำมันซึมสงสัยซีลเสียละครับ คงต้องได้ถอดแน่ครับ รู้สึกเฟืองท้ายมีเสียงห่อนนิดๆ ด้วยครับ
ส่วนสายไมล์ใช้เฟืองขับ อัตรา 16:4 แล้วจะหาตัวไมล์กี่ฟันมาใส่ครับ ของรถอะไรครับ

ขนาดยางถือว่าใกล้เคียงกันตามในรูปแรกเป็นสเปคยางที่ใช้

ส่วนระยะสลิงตามมาตรฐานก็ตามในรูป หากปรับให้หย่อนจะเปลี่ยนเกียร์เร็ว ถ้าตั้งตึงเปลี่ยนเกียร์ช้า คงต้องตั้งตามความต้องการของแต่ละคนในจุดนี้ (ฝากรูปท่อน้ำมันเกียร์เดิมๆให้ด้วย)

ส่วนเฟืองท้ายเอาจำนวนเฟืองหารกันครับ งานนี้ต้องรื้อมานับครับ หากตามสเปคจะอยู่ที่4.5สำหรับเครื่อง 5Kเกียร์ธรรมดา
แต่ตามสเปคตัวนอดเฉพาะญี่ปุ่นอันเป็นแหล่งผลิต5Kเกียร์ออโต ใช้ดังนี้
1997 TOYOTA LITEACE (KR41V-SRSDS)
NOAH D JPN VAN SRF 5K CBR ATM CBU V1 5D 06S
FINAL GEAR RATIO=43:9=4.778

[podd]

มีคำถามครับ รถมันร้อนกว่าปกติครับ ทั้งๆที่อากาศไม่ร้อนแต่ความร้อนขึ้นไวและสูงกว่าตอนใส่เกียรคอ ทั้งตอนวิ่ง และตอนจอดเครื่องร้อนเร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งแอร์ทำงานเครื่องรอบตกเยอะกว่าเดิมอีกด้วย เป็นสาเหตุมาจาก ทอร์อที่หนักติดเครื่อง หรือเปล่าครับ ไม่ได้ลองเอามาชั่งก่อนระหว่าง ชุดครัส เฟืองวี ว่าอย่างไหนหนักกว่ากันครับ
 ขนาดยางผมกะว่าจะหา 185/50R15 หรือ 195/50R15 มาลองดูครับ ไม่ทราบใกล้เคียงสเปกเดิมไหมครับ เขาคำนวณกันยังงัยครับ
ลองเปลี่ยนยางแทนเฟืองท้ายไปก่อน
ส่วนระยะสลิง ผมชอบตึงเปลี่ยนเกียร์ช้า เพราะลองตั้งให้หย่อนเปลี่ยนเกียรเร็วเกินไปครับ รถไม่มีแรงส่งไปต่อ
เฟืองท้ายถ้าว่างจะถอดออกมานับครับ ตอนนี้มีน้ำมันซึมสงสัยซีลเสียละครับ คงต้องได้ถอดแน่ครับ รู้สึกเฟืองท้ายมีเสียงห่อนนิดๆ ด้วยครับ
ส่วนสายไมล์ใช้เฟืองขับ อัตรา 16:4 แล้วจะหาตัวไมล์กี่ฟันมาใส่ครับ ของรถอะไรครับ

ขนาดยางถือว่าใกล้เคียงกันตามในรูปแรกเป็นสเปคยางที่ใช้

ส่วนระยะสลิงตามมาตรฐานก็ตามในรูป หากปรับให้หย่อนจะเปลี่ยนเกียร์เร็ว ถ้าตั้งตึงเปลี่ยนเกียร์ช้า คงต้องตั้งตามความต้องการของแต่ละคนในจุดนี้ (ฝากรูปท่อน้ำมันเกียร์เดิมๆให้ด้วย)

ส่วนเฟืองท้ายเอาจำนวนเฟืองหารกันครับ งานนี้ต้องรื้อมานับครับ หากตามสเปคจะอยู่ที่4.5สำหรับเครื่อง 5Kเกียร์ธรรมดา
แต่ตามสเปคตัวนอดเฉพาะญี่ปุ่นอันเป็นแหล่งผลิต5Kเกียร์ออโต ใช้ดังนี้
1997 TOYOTA LITEACE (KR41V-SRSDS)
NOAH D JPN VAN SRF 5K CBR ATM CBU V1 5D 06S
FINAL GEAR RATIO=43:9=4.778

ติดออยเกียร์ตรงไหนครับ หากติดขวางทางลมเข้าหม้อน้ำความร้อนขึ้นกว่าเดิมแน่ เนื่องจากดูดเอาลมร้อนหลังออยล์เข้าเครื่อง
หรืออีกสาเหตุนึงคือรอบเครื่องใช้สูงขึ้น ทำงานหนักขึ้น ความร้อนเลยเพิ่มขึ้น พอจอดรอบเครื่องต่ำกว่าวิ่งระบบน้ำมีความร้อนสะสมมามาก  หม้อน้ำที่มีอยู่เลยระบายไม่ทันก็เป็นได้ ยิ่งรวมกับสาเหตุแรกนี่ยิ่งร้อนครับ กรณีที่หม้อน้ำสกปรกนี่ส่วนมากจะออกอาการตอนที่มีภาระการระบายมากกว่าเดิมครับ
ส่วนแอร์ดึงกำลังนี่แน่นอนครับ ความร้อนมาก ระบบแอร์ทำงานหนักขึ้น รวมถึงไปเจอกับเครื่องกำลังตกแน่นอนหากความร้อนขึ้นสูงครับ

จานวีลบางกับทอร์คเบากว่าครับ เพราะวีลเดิมนอกจากแผ่นวีลหนักๆแล้วยังรวมชุดคลัทช์ด้วยนะครับ

ขนาดของล้อยางมีโปรแกรมคำนวณเปรียบเทียบ หาในเนทได้ครับ ผมก็หาเอาในนั้น คำค้น wheel tires calculations ครับ

16:4 หมายถึงเฟืองเพลา4เฟือง เฟืองเซนเซอร์16เฟืองต้องหาเทียบเอาตามร้านอะไหล่เก่า หมายถึงในกรณีที่ใช้เฟืองท้ายที่อัตราทดเฟืองท้าย 4.778นะครับ

อ้อ.....สายครัชท์เดิมยังใช่ไหมครับ หากไม่ใช้แล้วมีเพื่อนสมาชิกต้องการนะครับ แจ้งเพื่อทราบมาครับ

[a-zuma]

เครื่องติดออยหน้าหม้อน้ำครับ
เดี่ยวผมจะลองแก้วาวน้ำให้เปิดไว้นิดหน่อย ให้ไหลไปวนไปนิดหน่อย ให้วาวน้ำเปิดไวกว่าเดิมครับ จะลองค่อยๆแก้ไปที่ละจุดครับ
ใส่น้ำมันเกียรคนละยี่ฮ้อ มีผลไหมครับแต่เบอร์เหมือนกัน คือ เอทีเอฟ DEX III
สายครัชท์เดิมขอเก็บไว้ก่อนครับ เด๊่ยวยังงัยปล่อยจะแจ้งไปนะครับ

ติดออยเกียร์ตรงไหนครับ หากติดขวางทางลมเข้าหม้อน้ำความร้อนขึ้นกว่าเดิมแน่ เนื่องจากดูดเอาลมร้อนหลังออยล์เข้าเครื่อง
หรืออีกสาเหตุนึงคือรอบเครื่องใช้สูงขึ้น ทำงานหนักขึ้น ความร้อนเลยเพิ่มขึ้น พอจอดรอบเครื่องต่ำกว่าวิ่งระบบน้ำมีความร้อนสะสมมามาก  หม้อน้ำที่มีอยู่เลยระบายไม่ทันก็เป็นได้ ยิ่งรวมกับสาเหตุแรกนี่ยิ่งร้อนครับ กรณีที่หม้อน้ำสกปรกนี่ส่วนมากจะออกอาการตอนที่มีภาระการระบายมากกว่าเดิมครับ
ส่วนแอร์ดึงกำลังนี่แน่นอนครับ ความร้อนมาก ระบบแอร์ทำงานหนักขึ้น รวมถึงไปเจอกับเครื่องกำลังตกแน่นอนหากความร้อนขึ้นสูงครับ

จานวีลบางกับทอร์คเบากว่าครับ เพราะวีลเดิมนอกจากแผ่นวีลหนักๆแล้วยังรวมชุดคลัทช์ด้วยนะครับ

ขนาดของล้อยางมีโปรแกรมคำนวณเปรียบเทียบ หาในเนทได้ครับ ผมก็หาเอาในนั้น คำค้น wheel tires calculations ครับ

16:4 หมายถึงเฟืองเพลา4เฟือง เฟืองเซนเซอร์16เฟืองต้องหาเทียบเอาตามร้านอะไหล่เก่า หมายถึงในกรณีที่ใช้เฟืองท้ายที่อัตราทดเฟืองท้าย 4.778นะครับ

อ้อ.....สายครัชท์เดิมยังใช่ไหมครับ หากไม่ใช้แล้วมีเพื่อนสมาชิกต้องการนะครับ แจ้งเพื่อทราบมาครับ

[podd]

เครื่องติดออยหน้าหม้อน้ำครับ
เดี่ยวผมจะลองแก้วาวน้ำให้เปิดไว้นิดหน่อย ให้ไหลไปวนไปนิดหน่อย ให้วาวน้ำเปิดไวกว่าเดิมครับ จะลองค่อยๆแก้ไปที่ละจุดครับ
ใส่น้ำมันเกียรคนละยี่ฮ้อ มีผลไหมครับแต่เบอร์เหมือนกัน คือ เอทีเอฟ DEX III
สายครัชท์เดิมขอเก็บไว้ก่อนครับ เด๊่ยวยังงัยปล่อยจะแจ้งไปนะครับ

ติดออยเกียร์ตรงไหนครับ หากติดขวางทางลมเข้าหม้อน้ำความร้อนขึ้นกว่าเดิมแน่ เนื่องจากดูดเอาลมร้อนหลังออยล์เข้าเครื่อง
หรืออีกสาเหตุนึงคือรอบเครื่องใช้สูงขึ้น ทำงานหนักขึ้น ความร้อนเลยเพิ่มขึ้น พอจอดรอบเครื่องต่ำกว่าวิ่งระบบน้ำมีความร้อนสะสมมามาก  หม้อน้ำที่มีอยู่เลยระบายไม่ทันก็เป็นได้ ยิ่งรวมกับสาเหตุแรกนี่ยิ่งร้อนครับ กรณีที่หม้อน้ำสกปรกนี่ส่วนมากจะออกอาการตอนที่มีภาระการระบายมากกว่าเดิมครับ
ส่วนแอร์ดึงกำลังนี่แน่นอนครับ ความร้อนมาก ระบบแอร์ทำงานหนักขึ้น รวมถึงไปเจอกับเครื่องกำลังตกแน่นอนหากความร้อนขึ้นสูงครับ

จานวีลบางกับทอร์คเบากว่าครับ เพราะวีลเดิมนอกจากแผ่นวีลหนักๆแล้วยังรวมชุดคลัทช์ด้วยนะครับ

ขนาดของล้อยางมีโปรแกรมคำนวณเปรียบเทียบ หาในเนทได้ครับ ผมก็หาเอาในนั้น คำค้น wheel tires calculations ครับ

16:4 หมายถึงเฟืองเพลา4เฟือง เฟืองเซนเซอร์16เฟืองต้องหาเทียบเอาตามร้านอะไหล่เก่า หมายถึงในกรณีที่ใช้เฟืองท้ายที่อัตราทดเฟืองท้าย 4.778นะครับ

อ้อ.....สายครัชท์เดิมยังใช่ไหมครับ หากไม่ใช้แล้วมีเพื่อนสมาชิกต้องการนะครับ แจ้งเพื่อทราบมาครับ

เมื่อตัดปัญหาหม้อน้ำสกปรกออกไปเพราะหากติดตั้งออยล์เกียร์แบบฝังจะต้องผ่าล้างอยู่แล้ว ก็จะมามองที่ประเด็นโหลดที่เพิ่มขึ้น คือมีความร้อนน้ำมันเกียร์มาให้ช่วยระบายออกด้วยเพิ่มจากของเดิมครับ หากมีออยล์อากาศลองต่อดูน่าจะเห็นผลชัดเจนว่าความร้อนลดลงไหม
เจ้า3Sผมก็เป็นครับ ออยล์ในหม้อน้ำ ยามวิ่งนี้เย็น หากจอดติดนานๆยี่สิบนาทีขึ้นไปมีเสียวๆ ป้วนเปี้ยนแถวๆ97องศา ต้องเปิดพัดลมตัวเล็กช่วยเวลารถติดกลางแดดขนาดใช้หม้อน้ำลูกเล็กอีก1ลูกแล้วนะเนี่ย แต่ก็ติดออยล์อากาศทิ้งไว้อีกลูกเผื่อสลับใช้เวลาฉุกเฉินกลางทางนะครับเช่นออยล์รั่ว หรือน้ำซึม สามารถต่อลัดไม่ใช้หม้อน้ำลูกเล็กได้ พอดีเหลืออยู่เลยจัดซะ
 ลองเจาะรูที่รอบๆจานวาล์วน้ำน่าจะช่วยได้ครับ แต่อย่าถอดทิ้งเดี๋ยวยามอากาศเย็นเครื่องจะไม่ยอมร้อน
ส่วนเรื่องน้ำมันเกียร์ในรอบแรกยังไม่ต้องกลัวครับ ไว้ใช้ไปสักพักราว500กม.ค่อยถ่ายทิ้งอีกรอบ สองรอบ คราวนี้น้ำมันเก่า+ใหม่ที่ปนกันน่าจะหมดละครับ เพราะเราไม่รู้ว่าของเดิมนั้นDEX-II หรือDEX-III ในคัน3Sผมก็ใช้เครืองดันออกหมดไป2แกลลอน ใส่ใหม่เป็นDEX-IIIไปแล้ว

[a-zuma]

เมื่อวานผมลองต่อพัดลมไฟฟ้าให้ทำงานตลอดเห็นผลทันที่ความร้อดลดลงมากๆๆ มากกว่าเติมดีกว่าเติมด้วยครับความร้อนไม่มีขึ้น

ลองเปลี่ยนยาง 195 50  15  รถวิ่งดีกว่าอีกครับ  จากเดิม 175 65 15 รู้ได้เลยครับ รถไหลไปเรื่อยไม่อึดอาดเหมือนเดิม ดี่ขึ้น  ครับ

เมื่อตัดปัญหาหม้อน้ำสกปรกออกไปเพราะหากติดตั้งออยล์เกียร์แบบฝังจะต้องผ่าล้างอยู่แล้ว ก็จะมามองที่ประเด็นโหลดที่เพิ่มขึ้น คือมีความร้อนน้ำมันเกียร์มาให้ช่วยระบายออกด้วยเพิ่มจากของเดิมครับ หากมีออยล์อากาศลองต่อดูน่าจะเห็นผลชัดเจนว่าความร้อนลดลงไหม
เจ้า3Sผมก็เป็นครับ ออยล์ในหม้อน้ำ ยามวิ่งนี้เย็น หากจอดติดนานๆยี่สิบนาทีขึ้นไปมีเสียวๆ ป้วนเปี้ยนแถวๆ97องศา ต้องเปิดพัดลมตัวเล็กช่วยเวลารถติดกลางแดดขนาดใช้หม้อน้ำลูกเล็กอีก1ลูกแล้วนะเนี่ย แต่ก็ติดออยล์อากาศทิ้งไว้อีกลูกเผื่อสลับใช้เวลาฉุกเฉินกลางทางนะครับเช่นออยล์รั่ว หรือน้ำซึม สามารถต่อลัดไม่ใช้หม้อน้ำลูกเล็กได้ พอดีเหลืออยู่เลยจัดซะ
 ลองเจาะรูที่รอบๆจานวาล์วน้ำน่าจะช่วยได้ครับ แต่อย่าถอดทิ้งเดี๋ยวยามอากาศเย็นเครื่องจะไม่ยอมร้อน
ส่วนเรื่องน้ำมันเกียร์ในรอบแรกยังไม่ต้องกลัวครับ ไว้ใช้ไปสักพักราว500กม.ค่อยถ่ายทิ้งอีกรอบ สองรอบ คราวนี้น้ำมันเก่า+ใหม่ที่ปนกันน่าจะหมดละครับ เพราะเราไม่รู้ว่าของเดิมนั้นDEX-II หรือDEX-III ในคัน3Sผมก็ใช้เครืองดันออกหมดไป2แกลลอน ใส่ใหม่เป็นDEX-IIIไปแล้ว

[podd]

เมื่อวานผมลองต่อพัดลมไฟฟ้าให้ทำงานตลอดเห็นผลทันที่ความร้อดลดลงมากๆๆ มากกว่าเติมดีกว่าเติมด้วยครับความร้อนไม่มีขึ้น

ลองเปลี่ยนยาง 195 50  15  รถวิ่งดีกว่าอีกครับ  จากเดิม 175 65 15 รู้ได้เลยครับ รถไหลไปเรื่อยไม่อึดอาดเหมือนเดิม ดี่ขึ้น  ครับ

เมื่อตัดปัญหาหม้อน้ำสกปรกออกไปเพราะหากติดตั้งออยล์เกียร์แบบฝังจะต้องผ่าล้างอยู่แล้ว ก็จะมามองที่ประเด็นโหลดที่เพิ่มขึ้น คือมีความร้อนน้ำมันเกียร์มาให้ช่วยระบายออกด้วยเพิ่มจากของเดิมครับ หากมีออยล์อากาศลองต่อดูน่าจะเห็นผลชัดเจนว่าความร้อนลดลงไหม
เจ้า3Sผมก็เป็นครับ ออยล์ในหม้อน้ำ ยามวิ่งนี้เย็น หากจอดติดนานๆยี่สิบนาทีขึ้นไปมีเสียวๆ ป้วนเปี้ยนแถวๆ97องศา ต้องเปิดพัดลมตัวเล็กช่วยเวลารถติดกลางแดดขนาดใช้หม้อน้ำลูกเล็กอีก1ลูกแล้วนะเนี่ย แต่ก็ติดออยล์อากาศทิ้งไว้อีกลูกเผื่อสลับใช้เวลาฉุกเฉินกลางทางนะครับเช่นออยล์รั่ว หรือน้ำซึม สามารถต่อลัดไม่ใช้หม้อน้ำลูกเล็กได้ พอดีเหลืออยู่เลยจัดซะ
 ลองเจาะรูที่รอบๆจานวาล์วน้ำน่าจะช่วยได้ครับ แต่อย่าถอดทิ้งเดี๋ยวยามอากาศเย็นเครื่องจะไม่ยอมร้อน
ส่วนเรื่องน้ำมันเกียร์ในรอบแรกยังไม่ต้องกลัวครับ ไว้ใช้ไปสักพักราว500กม.ค่อยถ่ายทิ้งอีกรอบ สองรอบ คราวนี้น้ำมันเก่า+ใหม่ที่ปนกันน่าจะหมดละครับ เพราะเราไม่รู้ว่าของเดิมนั้นDEX-II หรือDEX-III ในคัน3Sผมก็ใช้เครืองดันออกหมดไป2แกลลอน ใส่ใหม่เป็นDEX-IIIไปแล้ว

ยินดีด้วยครับ ผมเองลืมแนะไปว่า ให้ลองเปลี่ยนยางเพื่อหาความเหมาะสม เพราะทำได้งา่ยกว่าการเปลี่ยนเฟืองท้าย แต่มีผลเท่าๆกัน (ใส่เล็กลงจะหมือนทดเพิ่ม)
แต่ถ้าหากต้องการใช้ยางเท่าเดิมค่อยคำนวณลดหรือเพิ่มเฟืองท้ายเอาอีกทีครับ
 รูปแรกเป็นขนาดที่เปลี่ยนปัจจุบัน
รูปหลังคือขนาดเผื่อเลือกที่หน้่ยาง 175 เท่าเดิม เมื่อเทียบเคียงกับขนาดที่เปลี่ยนใช้ชั่วคราวในตอนนี้ คำแนะนำเป้นสีเขียวคือสามารถใช้ได้

[podd]

คราวนี้มาเทียบกับขนาดเดิมๆของยางตรงรุ่น ของ5K เกียร์ออโตสเปคญี่ปุ่นโดยตรง หากซีรีย์ไม่ระบุแต่เป็น R,SRให้ใช้เป็น80-82 ร้านยางบอกมา

จะเห็นว่าขนาดที่ใช้อยู่ตอนนี้เข้าใกล้กัน เล็กกว่าเล็กน้อย หากอ้างอิงตามยางที่ใส่อยู่เดิมนั้นเท่ากับเราทดเฟืองมาราวๆเบอร์หนึ่งแล้ว(โดยประมาณ) ใกล้ๆกับ4.778ตามสเปคเกียร์ออโต โดยที่เรายังไม่เปลี่ยนลูกเฟืองท้าย
ถ้าหากว่าหากใส่เล็กลงน่าจะเท่ากับทดเฟืองขึ้นอีกรอบ ได้กำลังแน่ๆ แต่ระยะรอบล้อที่ลดลงนั้นจะสั้นไปด้วยหรือไม่ รอบเครื่องจะขึ้นมากไปหรือไม่ อันนี้ต้องลองคำนวณดูครับ
หรือต้องทำทั้งคู่คือเปลี่ยนเฟืองท้ายแลัวลดหรือเพิ่มขนาดยาง อันนี้ตามความพอใจ เมือเทียบกับสเปคที่เอามาอ้างอิง เพราะตัวเครื่องเราตอนนี้ไม่ได้สมบูรณ์100% เหมือนกับในสเปคที่เขาคำนวณมาแล้วด้วย

 อย่างของผมเครื่อง3เอส วางมาใหม่ในตอนแรก เดิมใส่ 4.5 รอบเหลือวิ่งได้เร็วพอใจแล้ว อัตราเร่งดีมากๆ แต่รอบสูงมาก เปลืองเชื้อเพลิง เลยลดมาเป็น4.1(หา4.3ไม่ได้ในช่วงนั้น) ก็วิ่งดีขึ้น รอบลดลงที่ความเร็วเท่าเดิม แต่อัตราเร่งจะตกลงอยู่ในช่วงยอมรับได้ หากลดตามสเปคคือ 3.909 (เหมือนรถแท้ตรงรุ่นของน้องจูนWillSmithใส่ยางเบอร์เดียวกัน )คาดว่าปลายจะไหลไปดีกว่านี้ แต่อัตราเร่งที่ได้คงไม่เหมาะกับการจราจรในบ้านเราขณะนี้ที่มีทั้ง แซง แทรก เบียด มุด ปาด เป็นแน่
เท่าที่ลองกับรถเดิมๆมา เรื่องออกตัวคันนี้กินกว่า อัตราเร่งสูสี แต่หากเรื่องวิ่งไหลเอาปลาย ติดลม ประหยัดแล้ว รถเดิมกินขาดครับ

หากเครื่องแรงน้อยทดเฟืองมากขึ้นจะไม่กินแรง เครื่องแรงมากทดมากกำลังเหลือ
หากเครื่องแรงน้อยทดน้อยลงจะยิ่งไม่มีกำลังรอบปลายจะไม่ขึ้น เครื่องกำลังมากทดน้อยลงวิ่งตัวปลิว
หลักๆตามนี้ครับ เหมือนนักเลงออฟโรดล้อโตเขาว่าไว้

[a-zuma]

ลืมมอง 175 55 15 เลยครับ เพราะ  หายางมือ 2 เจอแต่  185 55 15 กับ 195 50 15  เป็นส่วนใหญ่ แต่ก้อเป็นการแรียนรู้แนวทางครับ

ผมคิดว่าคงต้องหาเฟืองท้ายครับ เพราะเฟืองท้ายตัวที่ใส่นี้ มีเสียงตอนยกแม่แรงล้อหลังแล้วให้ล้อหมุน ตอนเดินเบามีเสียงนิดๆ พอตั้งคั้นเร่งให้แรงขึ้นเสียงก้อดังขึ้นตามการเร่งคันเร่ง เสียงที่ได้ยินนั้นดังติดต่อกัน ดังยาวตามการเรงคันเร่ง  คับ ไม่รู้คือเสียงหอนเปล่า น้ำมันเฟืองท้ายเพิ่งถ่าย รถปกติ เฟืองท้ายเขาเงียบไม่มีเสียง หรือ มีเสียงนิดๆ ครับ ไม่เคยฟังคันอื่นเลยเทียบไม่ได้ครับ 

คราวนี้มาเทียบกับขนาดเดิมๆของยางตรงรุ่น ของ5K เกียร์ออโตสเปคญี่ปุ่นโดยตรง หากซีรีย์ไม่ระบุแต่เป็น R,SRให้ใช้เป็น80-82 ร้านยางบอกมา

จะเห็นว่าขนาดที่ใช้อยู่ตอนนี้เข้าใกล้กัน เล็กกว่าเล็กน้อย หากอ้างอิงตามยางที่ใส่อยู่เดิมนั้นเท่ากับเราทดเฟืองมาราวๆเบอร์หนึ่งแล้ว(โดยประมาณ) ใกล้ๆกับ4.778ตามสเปคเกียร์ออโต โดยที่เรายังไม่เปลี่ยนลูกเฟืองท้าย
ถ้าหากว่าหากใส่เล็กลงน่าจะเท่ากับทดเฟืองขึ้นอีกรอบ ได้กำลังแน่ๆ แต่ระยะรอบล้อที่ลดลงนั้นจะสั้นไปด้วยหรือไม่ รอบเครื่องจะขึ้นมากไปหรือไม่ อันนี้ต้องลองคำนวณดูครับ
หรือต้องทำทั้งคู่คือเปลี่ยนเฟืองท้ายแลัวลดหรือเพิ่มขนาดยาง อันนี้ตามความพอใจ เมือเทียบกับสเปคที่เอามาอ้างอิง เพราะตัวเครื่องเราตอนนี้ไม่ได้สมบูรณ์100% เหมือนกับในสเปคที่เขาคำนวณมาแล้วด้วย

 อย่างของผมเครื่อง3เอส วางมาใหม่ในตอนแรก เดิมใส่ 4.5 รอบเหลือวิ่งได้เร็วพอใจแล้ว อัตราเร่งดีมากๆ แต่รอบสูงมาก เปลืองเชื้อเพลิง เลยลดมาเป็น4.1(หา4.3ไม่ได้ในช่วงนั้น) ก็วิ่งดีขึ้น รอบลดลงที่ความเร็วเท่าเดิม แต่อัตราเร่งจะตกลงอยู่ในช่วงยอมรับได้ หากลดตามสเปคคือ 3.909 (เหมือนรถแท้ตรงรุ่นของน้องจูนWillSmithใส่ยางเบอร์เดียวกัน )คาดว่าปลายจะไหลไปดีกว่านี้ แต่อัตราเร่งที่ได้คงไม่เหมาะกับการจราจรในบ้านเราขณะนี้ที่มีทั้ง แซง แทรก เบียด มุด ปาด เป็นแน่
เท่าที่ลองกับรถเดิมๆมา เรื่องออกตัวคันนี้กินกว่า อัตราเร่งสูสี แต่หากเรื่องวิ่งไหลเอาปลาย ติดลม ประหยัดแล้ว รถเดิมกินขาดครับ

หากเครื่องแรงน้อยทดเฟืองมากขึ้นจะไม่กินแรง เครื่องแรงมากทดมากกำลังเหลือ
หากเครื่องแรงน้อยทดน้อยลงจะยิ่งไม่มีกำลังรอบปลายจะไม่ขึ้น เครื่องกำลังมากทดน้อยลงวิ่งตัวปลิว
หลักๆตามนี้ครับ เหมือนนักเลงออฟโรดล้อโตเขาว่าไว้

[podd]

ลืมมอง 175 55 15 เลยครับ เพราะ  หายางมือ 2 เจอแต่  185 55 15 กับ 195 50 15  เป็นส่วนใหญ่ แต่ก้อเป็นการแรียนรู้แนวทางครับ

ผมคิดว่าคงต้องหาเฟืองท้ายครับ เพราะเฟืองท้ายตัวที่ใส่นี้ มีเสียงตอนยกแม่แรงล้อหลังแล้วให้ล้อหมุน ตอนเดินเบามีเสียงนิดๆ พอตั้งคั้นเร่งให้แรงขึ้นเสียงก้อดังขึ้นตามการเร่งคันเร่ง เสียงที่ได้ยินนั้นดังติดต่อกัน ดังยาวตามการเรงคันเร่ง  คับ ไม่รู้คือเสียงหอนเปล่า น้ำมันเฟืองท้ายเพิ่งถ่าย รถปกติ เฟืองท้ายเขาเงียบไม่มีเสียง หรือ มีเสียงนิดๆ ครับ ไม่เคยฟังคันอื่นเลยเทียบไม่ได้ครับ 

คราวนี้มาเทียบกับขนาดเดิมๆของยางตรงรุ่น ของ5K เกียร์ออโตสเปคญี่ปุ่นโดยตรง หากซีรีย์ไม่ระบุแต่เป็น R,SRให้ใช้เป็น80-82 ร้านยางบอกมา

จะเห็นว่าขนาดที่ใช้อยู่ตอนนี้เข้าใกล้กัน เล็กกว่าเล็กน้อย หากอ้างอิงตามยางที่ใส่อยู่เดิมนั้นเท่ากับเราทดเฟืองมาราวๆเบอร์หนึ่งแล้ว(โดยประมาณ) ใกล้ๆกับ4.778ตามสเปคเกียร์ออโต โดยที่เรายังไม่เปลี่ยนลูกเฟืองท้าย
ถ้าหากว่าหากใส่เล็กลงน่าจะเท่ากับทดเฟืองขึ้นอีกรอบ ได้กำลังแน่ๆ แต่ระยะรอบล้อที่ลดลงนั้นจะสั้นไปด้วยหรือไม่ รอบเครื่องจะขึ้นมากไปหรือไม่ อันนี้ต้องลองคำนวณดูครับ
หรือต้องทำทั้งคู่คือเปลี่ยนเฟืองท้ายแลัวลดหรือเพิ่มขนาดยาง อันนี้ตามความพอใจ เมือเทียบกับสเปคที่เอามาอ้างอิง เพราะตัวเครื่องเราตอนนี้ไม่ได้สมบูรณ์100% เหมือนกับในสเปคที่เขาคำนวณมาแล้วด้วย

 อย่างของผมเครื่อง3เอส วางมาใหม่ในตอนแรก เดิมใส่ 4.5 รอบเหลือวิ่งได้เร็วพอใจแล้ว อัตราเร่งดีมากๆ แต่รอบสูงมาก เปลืองเชื้อเพลิง เลยลดมาเป็น4.1(หา4.3ไม่ได้ในช่วงนั้น) ก็วิ่งดีขึ้น รอบลดลงที่ความเร็วเท่าเดิม แต่อัตราเร่งจะตกลงอยู่ในช่วงยอมรับได้ หากลดตามสเปคคือ 3.909 (เหมือนรถแท้ตรงรุ่นของน้องจูนWillSmithใส่ยางเบอร์เดียวกัน )คาดว่าปลายจะไหลไปดีกว่านี้ แต่อัตราเร่งที่ได้คงไม่เหมาะกับการจราจรในบ้านเราขณะนี้ที่มีทั้ง แซง แทรก เบียด มุด ปาด เป็นแน่
เท่าที่ลองกับรถเดิมๆมา เรื่องออกตัวคันนี้กินกว่า อัตราเร่งสูสี แต่หากเรื่องวิ่งไหลเอาปลาย ติดลม ประหยัดแล้ว รถเดิมกินขาดครับ

หากเครื่องแรงน้อยทดเฟืองมากขึ้นจะไม่กินแรง เครื่องแรงมากทดมากกำลังเหลือ
หากเครื่องแรงน้อยทดน้อยลงจะยิ่งไม่มีกำลังรอบปลายจะไม่ขึ้น เครื่องกำลังมากทดน้อยลงวิ่งตัวปลิว
หลักๆตามนี้ครับ เหมือนนักเลงออฟโรดล้อโตเขาว่าไว้

ลองเช็คให้ดีครับว่าเป็นที่เฟืองท้าย หรือลูกปืนล้อหลัง เพราะเสียงจะคล้ายกัน
ช่างทั้งหลายบอกมาว่าหากดังเสมอตามความเร็วนี่ลูกปืนล้อ หากดังจังหวะยกคันเร่ง หรือเร่งส่งโดยตลอด(มี2เสียง)นี่เฟืองท้าย
ต้องลองฟังครับ

[a-zuma]

คิดว่าเป็นเฟืองท้ายนะครับ ยกล้อขึ้นฟังทีเสียงทีละข้างเสียงดังเหมือนกัน ดังมาจากกลางคับ ถ้าหางเป็นเฟืองท้ายจิง  ราคาเฟืองท้ายประมานกีบาทครับ พอมีแหล่งไหมคับ

ลืมมอง 175 55 15 เลยครับ เพราะ  หายางมือ 2 เจอแต่  185 55 15 กับ 195 50 15  เป็นส่วนใหญ่ แต่ก้อเป็นการแรียนรู้แนวทางครับ

ผมคิดว่าคงต้องหาเฟืองท้ายครับ เพราะเฟืองท้ายตัวที่ใส่นี้ มีเสียงตอนยกแม่แรงล้อหลังแล้วให้ล้อหมุน ตอนเดินเบามีเสียงนิดๆ พอตั้งคั้นเร่งให้แรงขึ้นเสียงก้อดังขึ้นตามการเร่งคันเร่ง เสียงที่ได้ยินนั้นดังติดต่อกัน ดังยาวตามการเรงคันเร่ง  คับ ไม่รู้คือเสียงหอนเปล่า น้ำมันเฟืองท้ายเพิ่งถ่าย รถปกติ เฟืองท้ายเขาเงียบไม่มีเสียง หรือ มีเสียงนิดๆ ครับ ไม่เคยฟังคันอื่นเลยเทียบไม่ได้ครับ 

คราวนี้มาเทียบกับขนาดเดิมๆของยางตรงรุ่น ของ5K เกียร์ออโตสเปคญี่ปุ่นโดยตรง หากซีรีย์ไม่ระบุแต่เป็น R,SRให้ใช้เป็น80-82 ร้านยางบอกมา

จะเห็นว่าขนาดที่ใช้อยู่ตอนนี้เข้าใกล้กัน เล็กกว่าเล็กน้อย หากอ้างอิงตามยางที่ใส่อยู่เดิมนั้นเท่ากับเราทดเฟืองมาราวๆเบอร์หนึ่งแล้ว(โดยประมาณ) ใกล้ๆกับ4.778ตามสเปคเกียร์ออโต โดยที่เรายังไม่เปลี่ยนลูกเฟืองท้าย
ถ้าหากว่าหากใส่เล็กลงน่าจะเท่ากับทดเฟืองขึ้นอีกรอบ ได้กำลังแน่ๆ แต่ระยะรอบล้อที่ลดลงนั้นจะสั้นไปด้วยหรือไม่ รอบเครื่องจะขึ้นมากไปหรือไม่ อันนี้ต้องลองคำนวณดูครับ
หรือต้องทำทั้งคู่คือเปลี่ยนเฟืองท้ายแลัวลดหรือเพิ่มขนาดยาง อันนี้ตามความพอใจ เมือเทียบกับสเปคที่เอามาอ้างอิง เพราะตัวเครื่องเราตอนนี้ไม่ได้สมบูรณ์100% เหมือนกับในสเปคที่เขาคำนวณมาแล้วด้วย

 อย่างของผมเครื่อง3เอส วางมาใหม่ในตอนแรก เดิมใส่ 4.5 รอบเหลือวิ่งได้เร็วพอใจแล้ว อัตราเร่งดีมากๆ แต่รอบสูงมาก เปลืองเชื้อเพลิง เลยลดมาเป็น4.1(หา4.3ไม่ได้ในช่วงนั้น) ก็วิ่งดีขึ้น รอบลดลงที่ความเร็วเท่าเดิม แต่อัตราเร่งจะตกลงอยู่ในช่วงยอมรับได้ หากลดตามสเปคคือ 3.909 (เหมือนรถแท้ตรงรุ่นของน้องจูนWillSmithใส่ยางเบอร์เดียวกัน )คาดว่าปลายจะไหลไปดีกว่านี้ แต่อัตราเร่งที่ได้คงไม่เหมาะกับการจราจรในบ้านเราขณะนี้ที่มีทั้ง แซง แทรก เบียด มุด ปาด เป็นแน่
เท่าที่ลองกับรถเดิมๆมา เรื่องออกตัวคันนี้กินกว่า อัตราเร่งสูสี แต่หากเรื่องวิ่งไหลเอาปลาย ติดลม ประหยัดแล้ว รถเดิมกินขาดครับ

หากเครื่องแรงน้อยทดเฟืองมากขึ้นจะไม่กินแรง เครื่องแรงมากทดมากกำลังเหลือ
หากเครื่องแรงน้อยทดน้อยลงจะยิ่งไม่มีกำลังรอบปลายจะไม่ขึ้น เครื่องกำลังมากทดน้อยลงวิ่งตัวปลิว
หลักๆตามนี้ครับ เหมือนนักเลงออฟโรดล้อโตเขาว่าไว้

ลองเช็คให้ดีครับว่าเป็นที่เฟืองท้าย หรือลูกปืนล้อหลัง เพราะเสียงจะคล้ายกัน
ช่างทั้งหลายบอกมาว่าหากดังเสมอตามความเร็วนี่ลูกปืนล้อ หากดังจังหวะยกคันเร่ง หรือเร่งส่งโดยตลอด(มี2เสียง)นี่เฟืองท้าย
ต้องลองฟังครับ

[podd]

ของผมเองได้จากสมาชิกในเว็บนี่ละครับ
ส่วนร้านเซียงกงลองดูสมบัติ US. เซียงกงรังสิต ร้านUSหลักสี่ คงต้องหาเบอร์โทรเอาละครับ รู้แต่ย่านกรุงเทพครับ